ถุงดำใส่ร่างไร้วิญญาณถูกส่งสู่มือของไอ้อ้อม ว่าจะไม่คิดอะไรแล้วแต่ ณ เวลานั้นทำไมน้ำตาตกใน... พี่เหมียวถึงไม่ใช่แมวที่แท้จริงของไอ้อ้อม เป็นแมวของพี่ชายที่ถูกทิ้งให้คนอื่นรับช่วงเลี้ยงคราวที่ย้ายออกจากบ้านไปอยู่ที่ใหม่ ไอ้เราก็เลี้ยงไปตามความสามารถถึงแม้จะไม่ได้รักมันมากมาย แต่ก็รู้ว่ายังไงก็แล้วแต่ไม่มีใครรับผิดชอบมันแล้ว ไอ้อ้อมเองก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของมัน
จำได้ว่าสมัยพี่เหมียวหนุ่มๆ เป็นแมวที่ปราดเปรียวมากๆ เจ้าอารมณ์และนิสัยสันโดษ ขี้อ้อนบางเวลา แมวหง่าวหลงมาแถวบ้านเป็นอันต้องถูกพี่เหมียวจัดการอย่างสิโรราบ และมักจะเห็นแผลที่ตัวพี่เหมียวบ่อยๆ ป่วยก็หงอย สบายก็ลั้นลา ว่างั้นเถอะ
ไอ้อ้อมจำไม่ได้เลยว่าเคยเห็นหน้าพี่เหมียวมากี่ปีใช้นิ้วมือทั้งหมด 10 นิ้วก็ไม่พอ สรุปได้ว่าผูกพันธ์กันระดับนึง จนถึง ณ ปัจจุบันคิดว่าพี่เหมียวคงลืมเจ้าของเดิมและคิดว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริงของมัน จนหมดยุคของพี่เหมียวอายุมากขึ้น น้ำหนักที่เคยทำไว้ที่คล้ายๆ พยูนตัวเขื่อง ก็ลดลงๆ เขี้ยวฟันที่เคยแข็งแรงก็หลุดร่วง มีป่วยบ้างเป็นครั้งคราว เรื่องราวที่จะไปต่อสู้กับแมวหนุ่มก็หลีกเลี่ยงโดยไม่จำเป็น ประคับประคองชีวิตอย่างแมวแก่สุภาพและสันโดษ
ทุกอย่างเหมือนเป็นปรกติ แต่อยู่มาวันนึงพี่เหมียวเหมือนคนเมา เดินไม่เป็นเส้นตรง อาการซึมๆ ลอยๆ ลุกนั่งไม่เต็มก้น ไอ้อ้อมเห็นท่าไม่ดีก็เลยพาไปหาหมอ
อาการดูไม่ดีหมอสันนิษฐานก่อนว่าน่าจะเป็นโรคไต(โรคยอดฮิตในแมวแก่) เจาะเลือดไปตรวจดูผลในวันรุ่ง ส่วนคืนนี้นอนให้น้ำเกลือไปก่อนแล้วกันถ้าเป็นโรคไตจริงวันรุ่งขึ้นจะอาการดีเอง
วันถัดไปไอ้อ้อมโทรไปถามอาการ หมอแจ้งว่าพี่เหมียวทรุดในช่วงเช้าเลยจับเอ็กซ์เรย์และให้ออกซิเจนช่วยหายใจ เพราะท่าทางหายใจไม่ออกหอบ
ตอนเย็นไอ้้อ้อมโผล่ไปดูอาการพี่เหมียว ทิ้งหายใจยาวแบบเงียบๆ ในใจคิดว่า "มันคงไม่รอด" ทำใจเพราะเคยเห็น "คน" ที่อยู่ในลักษณะอาการแบบนี้ ลูบตัวหรือหยิกเท้าไม่รู้ตัวแล้ว ถึงหมอจะบอกว่าน่าจะรอดก็ตาม
หมอเอาฟิล์มให้ดูอธิบายว่าหลักๆ พี่เหมียวเป็นโรคหัวใจ ซึ่งปรกติหัวใจของแมวจะมีขนาดประมาณ 3 ซี่โครงแต่นี่ปาเข้าไปตั้ง 4 สาเหตุเกิดจากความแก่เหมือนคนแก่นั่นแหล่ะหลอดเลือดตีบ หัวใจเลยต้องเร่งพลังสูบฉีดเลือดเข้าไปทำให้หัวใจโต เป็นไปได้ที่พี่เหมียวจะช๊อคจากอาการหัวใจทำงานหนัก อีกอาการคือปอดบวมถ้าดูจากฟิล์มแล้วปอดที่ดีต้องเป็นสีดำสนิท ของพี่เหมียวมีสีขาวหลายๆ จุด
หมอฉีดยาและให้นอนดมออกซิเจนอีกคืนนึง ถ้าพรุ่งนี้เช้าดีก็คือรอด ....... ช่วงสายของอีกวันผมโทรไปหาหมอทราบว่าพี่เหมียวหลับไปแบบไม่ตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว ณ เวลานั้นผมไม่อยากรอให้ถึงเย็นเก็บของออกจากที่ทำงานตั้งแต่เที่ยงไปรับถุงดำๆ ซึ่งภายในบรรจุร่างนิ่มๆ ของพี่เหมียว
ตั้งแต่พี่เหมียวป่วยจนมันตายและลงหลุม พ่อแม่มันยังไม่เคยมาดูเลย ไอ้อ้อมไม่ได้โทษใครๆ หรอก เพียงแต่อยากสื่อให้เห็นว่าสัตว์เลี้ยงถ้าไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตเค้าแล้ว อย่าเอามาเลี้ยงดีกว่า เพราะสุดท้ายก็เอาไปทิ้งจนเป็นภาระให้คนอื่นหรือสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญ มันทำให้สัตว์ตาดำๆ ตัวนึงมีชีวิตที่ทรมาน
No comments:
Post a Comment